‘Long Live Love!’ ลอง ลีฟ เลิฟว์ (2023): รักได้มั้ย เมื่อนานไปเริ่มไม่รัก
- PIYANAT LAMOR
- Jul 3, 2023
- 1 min read
#LongLiveLove #ลองลีฟเลิฟว์ / ปิยะกานต์ บุตรประเสริฐ (2023)
ความสัมพันธ์มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนแค่มากกว่ารักหรือเลิก ชอบไม่ชอบ เพราะมันคือการยอมรับและจริงใจ ซึ่งเรื่องนี้ก็พอจะเล่าให้เห็นได้ดี ถึงจะติดกับตัวบทอยู่บ้าง แต่ต้องชื่นชมทีมนักแสดง(ผู้ใหญ่)ที่เล่นกันได้เข้าขา และรวมถึงองค์ประกอบอื่นๆที่อุ้มชูหนังเรื่องนี้ให้ดีเกินกว่าที่เราคาดไว้ ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าน้ำตาจะมาแหมะให้ได้ถึง2หยด
มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน เพราะรู้สึกบทมันยังไม่กลม บางอย่างก็ไม่จูงใจให้เชื่อ แต่ด้วยความแม่นยำบางอย่างของผู้กำกับที่ช่ำชองกับงานซิทคอม(และคุ้นเคยกับนักแสดงบางส่วนในเซ็ทนี้) ทำให้มันออกมาเป็นผลดีได้เฉยเลย เราเชื่อว่าหลายๆช้อยส์ที่เลือกถ้าไปอยู่ในมือผกก.คนอื่นอาจออกมาแย่กว่านี้ก็ได้(ถ้ายกตัวอย่างเร็วก็เช่นการกำกับป๋อมแป๋ม นิติ ชัยชิตาธร ที่มีความเป็นตัวเองสูงให้ออกมาพอดี ในขณะที่ภาพยนตร์อีกเรื่องอย่างไดอารี่ตุ๊ดซีส์ที่ไม่สามารถควบคุมตัวนักแสดงคนนี้ได้ รวมถึงใช้งานอารยา เอ ฮาร์เก็ตได้ไม่คุ้มค่าจนออกมากลายเป็นอะไรก็ไม่รู้) แต่ถ้าจะพูดถึงการแสดงจริงๆ เรายังรู้สึกติดใจกับการแสดงของเด็กๆในเรื่อง(รีเบคก้า แพทริเซีย อาร์มสตรอง และเพื่อนๆ ที่ดูน่าจะแสดงได้ดีกว่านี้) มากกว่าจะติดกับบทผู้ชายห่วยๆของนักแสดงนำซึ่งแอบรู้สึกว่าก็ไม่ได้ต่างจากโจศักดิ์ ชาญนารีในเนื้อคู่ฯเท่าไรตอนช่วงแรก

ที่ต้องชมจริงๆคือเหล่านักแสดงสมทบที่เล่นกันดีจนมันอุ้มชูจริงๆ นอกจากป๋อมแป๋มก็มี พี่ปีเตอร์ นพชัย ชัยนาม ที่พลิกบทบาทแบบหน้าเป็นหลัง เป็นบทที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นเขาเล่น และรู้สึกว่าเล่นได้ดีมากๆ จากการที่ต้องแบกรับตัวละครที่ดูเหมือนจะไม่มีมิติอะไรนอกจากเป็นแก๊งชายแท้เป็นต่อ ให้ดูเป็นคนเหี้ยที่บาลานซ์กับความตลกได้เข้าคู่กันดีกับ ศดานนท์ ดุรงคเวโจน์ ที่สลับคราบเด็กเครียดที่เห็นเป็นลูกไล่ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้น แล้วมีความสนุกสนานในการแสดง เช่นเดียวกับภูมิภัทร ถาวรศิริ ที่ออกมาน้อย แต่เรื่องนี้ก็เปิดโอกาสให้เขาได้เล่นอะไรที่ตลกโปกฮาและฉีกจากภาพจำ(ถึงแม้จะยังไม่เทียบเท่าบทในตำนานอย่างอัลเบิร์ต ไอศกรีมก็ตาม)

ส่วนที่โดดเด่นพอกันคือสกอร์และงานอาร์ตที่จัดจ้าน จนเรียกได้ว่าปรุงรสหนังให้มันกลมจริงๆ เห็นถึงความตั้งใจ แม้จะดูประดิษฐ์ประดอยแต่มันเข้ากับเรื่องอย่างบอกไม่ถูก รวมถึงสกอร์ที่มีบรรเลงดนตรีไทย/อีสานก็ดันเป็นการจัดวางที่แปลกพอควร แต่หลายๆอย่างมาจัดยำเข้าด้วยกันแล้วกินได้เลยทีเดียว ไม่ได้รู้สึกว่าแย่จนฝืนกลืน และด้วยองค์ประกอบต่างๆที่ว่ามาทั้งการแสดงและอื่นๆเลยพอช่วยกลบลบเรื่องการเล่าหรือสถานการณ์ในหนังบางอย่างไปได้บ้าง

สุดท้ายอย่างที่บอกว่าเรื่องความสัมพันธ์มันละเอียดอ่อน และการพามาสำรวจมองความสัมพันธ์ที่ผุๆพังๆอย่างในเรื่อง จุดจบที่สวยงามมันอาจจะไม่ใช่ความสวยงามในอุดมคติก็ได้ แก่นของมันที่เราคิดมันคือการยอมรับชอบและยอมรับผิดของตัวเองและคนอื่น การยอมรับซึ่งกันและกันมันสร้างความเข้าใจซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่ดีกว่าการไม่พูดไม่บอกอะไรเลย
ปล. Cameo พี่ดำทอมโสดคือที่สุด
Comments